เว็บสำเร็จรูป รองรับ Friendly URL และเทคนิคพิเศษที่ต้องรู้
การทำเว็บไซต์ ติดหน้าแรก Google คือจุดหมายสูงสุดของคนทำเว็บทุกคน เหตุผลก็เพราะว่า ในประเทศไทย ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตกว่าร้อยละ 90 ใช้ Google ในการค้นหาข้อมูล ซึ่งในแต่ละวันมีการค้นหาที่มากมายมหาศาล ดังนั้นหากเว็บไซต์ใดติดหน้าแรกๆ ของการค้นหา ย่อมหมายถึงโอกาสในการขายที่เพิ่มขึ้น
แต่การติดหน้าแรกของการค้นหาใน Google ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้ง่ายๆ เนื่องจากต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างเพราะ เราต้องรู้ถึง วิธีทำให้เว็บไซต์เป็นมิตรกับ Google ซึ่งหากเรารู้แนวทาง โอกาสที่จะติดหน้าแรกก็เป็นไปได้สูง
และเพื่อให้สมาชิกที่ใช้บริการ เว็บสำเร็จรูป ของบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับในการค้นหาดีที่ขึ้น ทางทีมงานพัฒนาระบบจึงได้ ทำการพัฒนาฟังก์ชั่น Friendly URL เพิ่มขึ้นมาใหม่ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า Friendly URL หรือ Permalink นั้นเป็นที่โปรดปรานของ Google จึงมั่นใจได้ว่า สมาชิกที่ใช้งาน เว็บสำเร็จรูป เวอร์ชั่นใหม่ จะมีโอกาสที่จะทำให้เว็บไซต์ของท่านติดอันดับใน Google ได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
เทคนิคที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดหน้าแรก Google
แต่ใช่ว่าการมีฟังก์ชั่น Friendy URL แล้วจะทำอะไรก็ได้ ทำยังไงก็ติด Google บอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่ เนื่องจากการใช้ Friendly URL ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้น จะต้องมีเทคนิคในการใช้งานอยู่บ้างเหมือนกัน ซึ่งเทคนิคมีดังนี้คือ
- การตั้งชื่อเรื่องให้สัมพันธ์กับ Keywords โดยการตั้งชื่อในลักษณะนี้ จะต้องคิดไว้ก่อนว่า คำหลัก หรือ Keywords ที่เราจะนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อเรื่องนั้น เป็นคำที่ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราจะใช้เป็นคำค้นหาหรือไม่ ซึ่งหากเราตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจโดยมี Keywords ผสมอยู่ในนั้นด้วย ฟังก์ชั่น Friendly URL ก็จะช่วยให้สิ่งที่คุณต้องการ ง่ายขึ้น
- ชื่อเรื่องที่ต้องจะต้องไม่มีเครื่องหมายใดๆ เช่น !@#$%^&+ เพราะสัญญลักษณ์เหล่านี้ จะไม่สามารถแสดงเป็น Friendly URL ได้ และดีไม่ดี Google อาจมองเห็นเป็น Malware อีกต่างหาก
- เชื่อเรื่องไม่ควรสั้นเกินไป เนื่องจากบางคนอาจคิดว่า เพื่อให้ติดอันดับใน Google ได้เร็วขึ้น งั้นก็เอา Keywords แบบ Short Tail มาตั้งเป็นชื่อเรื่องเสียเลย.. บอกตรงนี้เลยครับว่า การทำแบบนี้ไม่ผลครับ เพราะ Keyword, ชื่อเรื่อง และเนื้อหา จะต้องมีความเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน สิงที่ควรทำและสิ่งที่สามารถทำได้คือ การตั้งชื่อเรื่องแบบอ่านแล้วเป็นธรรมชาติ, สัมพันธ์กับเนื้อหา ซึ่งสามารถใช้ Keywords แบบ Long tail มาใช้เป็นชื่อเรื่องได้
- เนื้อหาจะต้องสัมพันธ์กับชื่อเรื่อง อย่างที่กล่าวไว้ในข้อก่อนหน้าคือ เนื้อหาของหน้านั้น จะต้องสัมพันธ์กับชื่อเรื่อง แต่สิ่งที่จะต้องมีเพิ่มอีกนิดคือ Keywords ที่ต้องแทรกไว้ในเนื้อหา อย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีแทรกไว้ประมาณย่อหน้าละ 1 คำ เป็นอย่างน้อย และอีกข้อที่ต้องจำไว้เสมอคือ ในเนื้อหาหนึ่งหน้า ควรจะเน้น Keywords เพียงคำเดียวเท่านั้น ไม่ควรมี Keywords หลายคำในหน้าเดียว เพราะจะทำให้ความหนาแน่นของ Keaywords มีเปอร์เซ็นต์ที่ก้ำกึ่งกัน จะทำให้ประสิทธิผลไม่ดีเท่าที่ควร
สิ่งที่อธิบายไปทั้งหมด ในส่วนที่เกี่ยวกับคำแนะนำ จริงๆ แล้วมันคือการทำ SEO นั่นเอง ถึงแม้ว่าเทคนิคที่นำมาอธิบายจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำ SEO แต่เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญในอันดับต้นๆ ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ติด Google ได้อย่างดี เนื่องจากเทคนิคดังกล่าว เป็นสิ่งที่ผู้ดูแลเว็บไซต์จะต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว เช่นการอัพเดทเนื้อหา, เขียนบทความ ซึ่งหากรู้เทคนิค ก็จะสามารถทำให้เว็บไซต์ติดอันดับได้ โดยไม่ต้องจ้างใครนั่นเอง
